โยกิลาทิส เป็นทางเลือกหนึ่งของการออกกำลังกายที่น่าสนใจทีเดียว เพราะการผสมผสานและนำข้อดีของการออกกำลังกาย 2 แบบ คือ โยคะและพิลาทิส มาไว้ด้วยกัน จึงให้ประโยชน์ทั้งการสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย ช่วยกระชับสัดส่วน และเพิ่มสมาธิและความผ่อนคลายให้จิตใจ
โยกิลาทิสเป็นการออกกำลังกายที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2539 โดย Jonathan Urla โดยนำข้อดีของโยคะ คือการยืดหยุ่นร่างกายและฝึกการหายใจ เน้นการกำหนดลมปราณ ทำให้เกิดความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ และข้อดีของพิลาทิส คือการฝึกเกร็งกล้ามเนื้อ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อมัดเล็กทั่วร่างกาย การผสมผสานทั้งสองแบบจึงทำให้ทั้งร่างกาย และจิตใจให้เคลื่อนไหวไปด้วยกัน โดยมีลูกบอลเป็นอุปกรณ์ช่วยผ่อนน้ำหนัก จึงเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
คุณวรณัน มะลิวัลย์ ครูฝึกโยกิลาทิส ให้คำแนะนำว่า การฝึกโยกิลาทิสจะทำให้ได้ ประโยชน์ทั้ง 3 องค์ประกอบ คือ ร่างกายยืดหยุ่น แข็งแรง และเกิดความสมดุล ซึ่งท่าสำหรับฝึกโยกิลาทิสก็มีให้เลือกมากมายหลายท่า เพราะเป็นท่าประยุกต์ที่นำมาจากการฝึกโยคะและพิลาทิส จึงมีการพลิกแพลงได้มากมาย ขึ้นอยู่กับผู้ฝึกว่าต้องการให้ร่างกายส่วนใดได้ประโยชน์ ที่สำคัญคือควรฝึกจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับคำแนะนำหรือออกแบบท่าออกกำลังให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน
การเตรียมตัวเพื่อออกกำลังแบบโยกิลาทิสนั้น ผู้ฝึกควรให้ความใส่ใจตั้งแต่การเลือกเสื้อผ้า สำหรับสวมใส่ที่ควรให้เป็นเสื้อผ้าที่กระชับเข้ารูป สามารถระบายเหงื่อได้ดี และไม่ควรรับประทานอาหารก่อนมาออกกำลังกายภายใน 2 ชั่วโมง ในการฝึกแต่ละครั้งควรใช้เวลา 45 – 60 นาที โดยเล่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจและร่างกายเกิดการเผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะการฝึกโยกิลาทิสจะเริ่มด้วยการฝึกความสมดุลของร่างกายบนลูกบอล หรือฝึกการทรงตัวบนลูกบอล โดยกำหนดให้จิตใจมีสมาธิ ร่างกายนิ่ง จากนั้นก็จะฝึกในท่าต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่หัวไหล่ ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก สิ่งสำคัญของการออกกำลังกายแบบนี้ คือ การกำหนดลมหายใจในแต่ละท่า ควรหายใจ เข้าออก 8-10 ครั้งต่อท่าการบริหารและเกร็งลำตัวตลอดเวลา เพื่อให้ได้ประโยชน์กับกล้ามเนื้อ ที่สมบูรณ์อย่างจริงจัง
ใครที่สนใจออกกำลังกายแบบได้สมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ ขอแนะนำโยกิลาทิสเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ต้องอย่าลืมว่า ควรเริ่มต้นฝึกอย่างถูกวิธีโดยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อย่างจริงจังจะดีที่สุดค่ะ
โยกิลาทิสเป็นการออกกำลังกายที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2539 โดย Jonathan Urla โดยนำข้อดีของโยคะ คือการยืดหยุ่นร่างกายและฝึกการหายใจ เน้นการกำหนดลมปราณ ทำให้เกิดความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ และข้อดีของพิลาทิส คือการฝึกเกร็งกล้ามเนื้อ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อมัดเล็กทั่วร่างกาย การผสมผสานทั้งสองแบบจึงทำให้ทั้งร่างกาย และจิตใจให้เคลื่อนไหวไปด้วยกัน โดยมีลูกบอลเป็นอุปกรณ์ช่วยผ่อนน้ำหนัก จึงเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
คุณวรณัน มะลิวัลย์ ครูฝึกโยกิลาทิส ให้คำแนะนำว่า การฝึกโยกิลาทิสจะทำให้ได้ ประโยชน์ทั้ง 3 องค์ประกอบ คือ ร่างกายยืดหยุ่น แข็งแรง และเกิดความสมดุล ซึ่งท่าสำหรับฝึกโยกิลาทิสก็มีให้เลือกมากมายหลายท่า เพราะเป็นท่าประยุกต์ที่นำมาจากการฝึกโยคะและพิลาทิส จึงมีการพลิกแพลงได้มากมาย ขึ้นอยู่กับผู้ฝึกว่าต้องการให้ร่างกายส่วนใดได้ประโยชน์ ที่สำคัญคือควรฝึกจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับคำแนะนำหรือออกแบบท่าออกกำลังให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน
การเตรียมตัวเพื่อออกกำลังแบบโยกิลาทิสนั้น ผู้ฝึกควรให้ความใส่ใจตั้งแต่การเลือกเสื้อผ้า สำหรับสวมใส่ที่ควรให้เป็นเสื้อผ้าที่กระชับเข้ารูป สามารถระบายเหงื่อได้ดี และไม่ควรรับประทานอาหารก่อนมาออกกำลังกายภายใน 2 ชั่วโมง ในการฝึกแต่ละครั้งควรใช้เวลา 45 – 60 นาที โดยเล่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจและร่างกายเกิดการเผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะการฝึกโยกิลาทิสจะเริ่มด้วยการฝึกความสมดุลของร่างกายบนลูกบอล หรือฝึกการทรงตัวบนลูกบอล โดยกำหนดให้จิตใจมีสมาธิ ร่างกายนิ่ง จากนั้นก็จะฝึกในท่าต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่หัวไหล่ ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก สิ่งสำคัญของการออกกำลังกายแบบนี้ คือ การกำหนดลมหายใจในแต่ละท่า ควรหายใจ เข้าออก 8-10 ครั้งต่อท่าการบริหารและเกร็งลำตัวตลอดเวลา เพื่อให้ได้ประโยชน์กับกล้ามเนื้อ ที่สมบูรณ์อย่างจริงจัง
ใครที่สนใจออกกำลังกายแบบได้สมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ ขอแนะนำโยกิลาทิสเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ต้องอย่าลืมว่า ควรเริ่มต้นฝึกอย่างถูกวิธีโดยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อย่างจริงจังจะดีที่สุดค่ะ